คำจำกัดความต่อไปนี้ สามารถใช้ได้กับกีฬาพูลทุกประเภท
- ส่วนต่างๆ ของโต๊ะ (Parts of the Table)
 คำจำกัดความต่อไปนี้ คือคำที่ใช้เรียกส่วนประกอบต่างๆ ของโต๊ะพูล รายละเอียดเกี่ยวกับขนาดต่างๆ จะระบุไว้ใน คู่มืออุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งขันของ WPA และสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.wpa-pool.com- โต๊ะพูล ประกอบด้วยขอบโต๊ะ ชิ่ง พื้นผิวโต๊ะ และหลุมต่างๆ โดย Foot End ของโต๊ะ จะเป็นด้านที่ตั้งลูกเป้า (object balls) ส่วน Head End จะเป็นด้านที่แทงลูกคิวบอลออกไป - พื้นที่หลังเส้นเมือง คือพื้นที่ระหว่าง เส้นเมือง (head string) กับ ชิ่งล่าง (Head Rail) โดยไม่รวมเนื้อที่บน เส้นเมือง - ชิ่ง (cushions) ด้านบนของขอบชิ่ง (top of the rails) หลุม (pocket) และโค้งหลุม (pocket liners) รวมเป็นส่วนหนึ่งของ ขอบโต๊ะ (rails) - บนพื้นโต๊ะประกอบด้วยเส้น 4 เส้นดังนี้
   
- เส้น Long String เป็นเส้นตรงที่ผ่ากลางโต๊ะในแนวตั้ง
- เส้น Head String คือ เส้นเมือง แบ่ง 1 ใน 4 ของโต๊ะ ด้านในเมือง
- เส้น Foot String เป็นเส้นที่แบ่ง 1 ใน 4 ของโต๊ะด้านตรงข้าม
- เส้น Center String เป็นเส้นที่แบ่งครึ่งของโต๊ะในแนวขวาง จากกึ่งกลางของหลุมกลาง 2 หลุมลากเข้าหากัน
 - บนขอบโต๊ะ จะมีการกำหนดตำแหน่งของจุดแบ่งของโต๊ะ เรียกว่า จุด Diamonds or Sights โดยแบ่งโต๊ะออกเป็น 1 ใน 4 ของด้านกว้าง และ 1 ใน 8 ของด้านยาว วัดจากจมูกหลุมด้านหนึ่งไปหาอีกด้านหนึ่ง - Foot Spot : ตรงจุดตัดของเส้น Foot String กับเส้น Long String
- Head Spot : ตรงจุดตัดของเส้น Head String กับเส้น Long String
- Center Spot : ตรงจุดตัดของเส้น Center String กับเส้น Long String
- Triangle : อาจจะมีการตีเส้นเป็นรูปสามเหลี่ยม หรืออาจมีเพียงมุมทั้ง 3 ด้าน เพื่อเป็นตำแหน่งที่จะต้องตั้งลูก ตามแต่เกมต่างๆ จะกำหนด
 
- การแทง (Shot)- การแทงเริ่มนับทันทีที่หัวคิวกระทบลูกคิวบอลออกไปด้านหน้า การแทงจะสิ้นสุดลงเมื่อลูกทุกลูกหยุดหมุน หรือเคลื่อนไหว การแทงจะถือว่าไม่ผิดกติกา หากไม่มีการทำฟาล์วเกิดขึ้น 
- ลูกลงหลุม (Ball Pocketed)- ลูกที่ถูกแทงลงหลุมไปจะหล่นลงไปในหลุม หรือช่องเก็บลูก อาจผ่านทางระบบที่ทำไว้ให้ลูกที่ลงหลุมไปรวมอยู่ที่จุดเดียวกัน ลูกที่ค้างอยู่บนปากหลุมที่ไม่ลงเพราะมีลูกอื่นดันเอาไว้ ถือเป็นลูกที่ลงหลุมถ้านำลูกบอลที่ดันออกไปทำให้ลูกบอลลูกนั้นลงหล่นลงหลุม - หากลูกหยุดอยู่ที่ใหล้ปากหลุมเกิน 5 วินาที แล้วหล่นลงไปเอง ไม่ถือว่าเป็นลูกที่ลงหลุมตามกฎและกติกาทั่วไป (General Rules) ของการหยุดของลูกหลังเที่ยวแทง (Balls Settling) ในระหว่างช่วงเวลา 5 วินาทีดังกล่าว ผู้ตัดสินควรดูให้ดีว่าจะยังไม่มีการแทงไม้ต่อไปเกิดขึ้น - ลูกที่กระดอนกลับออกมาจากหลุมขึ้นมาอยู่บนโต๊ะ ถือเป็นลูกที่ไม่ลงหลุม - หากลูกคิวบอลไปกระทบลูกที่ลงหลุมไปแล้ว (แต่ล้นปากหลุมออกมา) ถือว่าลูกคิวบอล ได้ลงหลุมไปแล้ว โดยไม่คำนึงว่าลูกจะกระดอนกลับมาอยู่บนโต๊ะอีกหรือไม่ ผู้ตัดสินจะช่วยนำลูกที่ล้นหลุมออกจากหลุม แต่เป็นความรับผิดชอบที่ผู้เล่นจะต้องตรวจเช็คเอง เพื่อป้องกันความผิดพลาด 
- 
   การแทงให้โดนชิ่ง (Driven to a Rail)การแทงลูกให้โดนชิ่ง หมายถึง การแทงให้ลูกที่ไม่ติดอยู่กับชิ่งวิ่งไปให้กระทบชิ่ง ลูกที่ติดกับชิ่งอยู่แล้วก่อน (frozen to the rail) การแทง ไม่ถือว่าเป็นลูกกระทบชิ่ง จนกว่าจะถูกแทงออกไปแล้ววิ่งไปกระทบชิ่งใหม่อีกครั้ง ลูกที่ถูกตบลงหลุม หรือกระเด็นออกจากโต๊ะ ถือว่าเป็นลูกที่ถึงชิ่งแล้ว ลูกที่อยู่ติดชิ่งจะไม่ถือว่าเป็นลูกติดชิ่ง จนกว่า ผู้ตัดสิน (referee) ผู้เล่น (shooter) หรือคู่แข่งขัน (opponent) จะขานว่าเป็นลูกที่ติดชิ่ง 
- ลูกตกโต๊ะ (Driven off the Table)- ลูกที่กระเด็นตกจากโต๊ะ หมายถึง ลูกที่ไม่หยุดอยู่บนพื้นผิวของโต๊ะที่ใช้ในการเล่น โดยไม่ถูกตบลงหลุมไป และลูกที่กระเด็นไปโดนวัตถุอื่นๆ นอกโต๊ะ เช่น โป๊ะไฟ ชอล์คฝนหัวคิว หรือร่างกายของผู้เล่น ถือว่าเป็นลูกตกโต๊ะเช่นกันแม้ว่าจะกระเด็นกลับมาอยู่บนโต๊ะก็ตาม - ลูกที่วิ่งขึ้นไปบนขอบชิ่งแล้วตกกลับลงมาบนโต๊ะ หรือวิ่งลงหลุมไป ไม่ถือว่าเป็นลูกตกโต๊ะ 
- แทงเปลี่ยน (Scratch)- การแทงให้ลูกคิวบอลวิ่งลงหลุมไปเรียกว่า เป็นการแทงเปลี่ยน (Scratch) 
- ลูกคิวบอล (Cue Ball)- ลูกคิวบอล คือ ลูกที่ใช้ในการแทงโดยไม้คิวจากผู้เล่น โดยส่วนใหญ่จะมีสีขาว และอาจจะมีจุดหรือโลโก้แสดงอยู่บนลูกได้ ในการเล่น Pocket Billiards ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจะใช้ลูกคิวบอลลูกเดียวกัน 
- ลูกเป้า (Object Balls)- ลูกเป้า คือ ลูกที่ผู้เล่นแทงลูกคิวบอลไปกระทบ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะให้ลูกเป้านั้นวิ่งไปลงหลุม โดยปรกติจะมีหมายเลขระบุไว้บนลูกตั้งแต่หมายเลข 1 ไปจนถึงหมายเลขที่ต้องใช้ในการเล่นเกมนั้นๆ สีและรายละเอียดของลูกเป้า ระบุไว้ในคู่มืออุปกรณ์การแข่งขันของ WPA (WPA Equipment Specifications) 
- การเล่นเป็นเซ็ท (Set)- ในการแข่งขันบางประเภท จะมีการแบ่งการเล่นออกเป็น เซ็ท โดยผู้ที่ชนะใน แมตช์ นั้นๆ จะต้องทำจำนวนเซ็ทให้ได้ตามที่กำหนด การแบ่งเซ็ททำได้ด้วยการระบุจำนวนคะแนน (points) และจำนวนเกม (racks) สำหรับชัยชนะในแต่ละเซ็ท 
- แร็ค (Rack)- แร็ค คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการตั้งลูกเพื่อใช้ในการแทงเปิดของแต่ละเกม โดยทั่วไปจะเป็นทรงสามเหลี่ยม - การแร็คลูก หมายถึงการตั้งลูกโดยใช้แร็ค - นอกจากนี้คำว่า แร็ค ยังหมายถึง การเล่นส่วนหนึ่งของแมตช์การแข่งขันด้วย ในเกมบางเกม เช่น พูล 9 ลูก 1 เกม มีความหมายเท่ากับ 1 แร็ค นั่นเอง 
- เบรค (Break)
- เที่ยวแทง (Inning)- Inning หรือเที่ยวแทงที่ผู้เล่นสลับกันออกมาแทง Inning จะเริ่มขึ้นเมื่อผู้เล่นถึงเที่ยวแทงที่จะออกมาแทงได้ตามกติกา และจบลงเมื่อผู้เล่นหมดสิทธิ์ที่จะได้เล่นต่อในเที่ยวแทงนั้นแล้ว ในเกมบางประเภท ผู้เล่นอาจปฏิเสธเที่ยวแทงของตนได้ โดยให้ผู้เล่นอีกฝ่ายเล่นต่อไป (เช่น ในกรณีการเล่น “Push out” ในพูล 9 ลูก) ผู้เล่นที่ถึงเที่ยวแทงจะเรียกว่า Shooter 
- ตำแหน่งของลูก (Position of Balls)- การตั้งตำแหน่งของลูก กำหนดให้วัดจากจุดกึ่งกลางของลูกในแนวตั้งลงมายังพื้นผิวของโต๊ะ ลูกที่ระบุว่าอยู่บนเส้นหรือจุด หมายถึง จุดกึ่งกลางของลูกในแนวตั้งอยู่ตรงกับเส้น หรือจุดนั้นพอดี 
- ลูกที่นำกลับมาตั้งใหม่ (Re-spotting Balls)- ในเกมบางประเภท อาจจะต้องมีการนำลูกเป้ากลับมาตั้งบนโต๊ะ นอกเหนือจากการนำลูกทั้งหมดกลับมาตั้งใหม่ เรียกว่า การตั้งลูกที่จุด ตามกฎและกติกาทั่วไป (General Rules) ของการนำลูกกลับมาตั้ง (Spotting Balls) 
- นำลูกกลับมาตั้งที่ตำแหน่งเดิม (Restoring a Position)- หากลูกบอลมีการถูกทำให้เคลื่อนไหวนอกเหนือจากการแทงตามปรกติ กติกาอาจระบุให้นำลูกกลับมาตั้งยังจุดเดิมก่อนมีการเคลื่อนไหว โดยผู้ตัดสินจะต้องพยายามตั้งลูกให้ใกล้เคียงตำแหน่งเดิมให้มากที่สุด 
- การแทงลูกกระโดด (Jump Shot)- การแทงลูกกระโดด หมายถึง การแทงที่ทำให้ ลูกคิวบอลมีการกระโดดข้ามลูกที่กีดขวางอยู่ ซึ่งอาจเป็นลูกเป้า หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของชิ่ง การแทงจะถูกกติกาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเจตนา วัตถุประสงค์ของผู้เล่น และผลที่ออกมา โดยปรกติ การแทงลูกกระโดดจะแทงโดยการยกไม้คิวขึ้นสูงแล้วแทงใต้ลูกคิวบอลเพื่อให้งัดลูกคิวบอลกระดอนขึ้นไป 
- การแทงลูกป้องกัน (Safety Shot)- ในเกมที่ต้องมีการขานลูกและหลุม ผู้เล่นอาจทำการขานวิธีการเล่นเพื่อเป็นการป้องกันได้ ด้วยการขานคำว่า Safety ก่อนการออกคิวในไม้นั้นๆ ซึ่งมีผลทำให้เที่ยวแทงของผู้เล่นจะสิ้นสุดลงหลังจากที่ได้แทงไม้นั้นออกไป 
- 
   แทงแป็ก (Miscue)Miscue หรือ การแทงแป็กเกิดขึ้นจากการที่หัวคิวแทงมีการสไลด์ออกไปด้านข้างของลูกคิวบอลที่อาจเกิดจากการแทงไซด์ หรือผู้เล่นอาจฝนหัวคิวไม่ดีพอ ส่วนใหญ่จะมีเสียงดังแปลกๆ และหัวคิวอาจเสียหายได้ บางครั้ง การแทงแป็กอาจเป็นการแทงที่เกิดจากการสัมผัสของไม้คิวด้านข้าง ซึ่งหากไม่เห็นอย่างชัดเจน อาจไม่รู้ว่ามีการแทงแป็กเกิดขึ้น การแทงงัด ที่แทงให้หิวคิวแทงโดนผ้าปูโต๊ะและลูกคิวบอลในเวลาเดียวกัน ซึ่งอาจทำให้ลูกคิวบอลกระเด็นลอยขึ้นจากผ้าปูโต๊ะได้ ถือว่าเป็นการแทงแป็กเช่นกัน 
การเบรค หมายถึง การแทงในไม้เปิดของแต่ละเกม หรือแร็ค ขึ้นอยู่กับประเภทของเกมนั้นๆ การแทงเปิดจะเกิดขึ้นเมื่อลูกเป้ามีการนำไปตั้งรวมกลุ่มกัน เพื่อเริ่มเกมใหม่ แล้วให้ผู้เล่นแทงลูกคิวบอลออกไปจากหลังเส้นเมืองโดยมีจุดประสงค์ในการแทงลูกกลุ่มให้แตกออกมา
| Refer to: | |
 

 
No comments:
Post a Comment